ร้อยไหมละลาย: ความแตกต่างจากไหมชนิดอื่น
ร้อยไหมละลาย เป็นเทคนิคเสริมความงามที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากช่วยยกกระชับผิว ลดริ้วรอย และปรับรูปหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด ไหมละลายมีคุณสมบัติพิเศษที่ทำให้แตกต่างจากไหมชนิดอื่น เช่น ไหมไม่ละลายหรือไหมทองคำ บทความนี้จะอธิบายความแตกต่างอย่างละเอียดและเหตุผลที่ไหมละลายได้รับความนิยม
ไหมแบบละลายคืออะไร?
ไหมละลายเป็นเส้นไหมที่ทำจากวัสดุ PDO (Polydioxanone) หรือวัสดุที่คล้ายกันซึ่งสามารถสลายไปได้เองในร่างกายภายใน 6-8 เดือน แต่ผลลัพธ์ของการยกกระชับและการกระตุ้นคอลลาเจนจะคงอยู่ได้นานถึง 12-18 เดือน
ความแตกต่างระหว่างไหมละลายและไหมชนิดอื่น
1. ไหมละลาย vs ไหมไม่ละลาย
ไหมละลาย
ทำจากวัสดุที่ร่างกายสามารถย่อยสลายได้
ไม่มีสารตกค้างในร่างกาย จึงมีความปลอดภัยสูง
ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ชั่วคราวและหลีกเลี่ยงการผ่าตัด
ไหมไม่ละลาย
ทำจากวัสดุที่ไม่สลาย เช่น โพลีโพรพิลีน (Polypropylene)
ใช้สำหรับการยกกระชับระยะยาว แต่มีโอกาสเกิดผลข้างเคียง เช่น การอักเสบหรือเส้นไหมเคลื่อนที่
ต้องมีการผ่าตัดเพื่อเอาไหมออกหากเกิดปัญหา
2. ไหมละลาย vs ไหมทองคำ
ไหมละลาย
ผลลัพธ์อยู่ได้ 12-18 เดือนหลังการทำ
ไม่ทิ้งร่องรอยหรือสารตกค้างในร่างกาย
ราคาย่อมเยากว่าไหมทองคำ
ไหมทองคำ
ทำจากเส้นทองคำบริสุทธิ์ที่ไม่ละลาย
ช่วยยกกระชับและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ถาวร แต่ราคาสูงและอาจเกิดอาการแพ้ในบางกรณี
3. ไหมละลาย vs ไหมเงี่ยง
ไหมละลายแบบเรียบ (Smooth Thread)
เน้นการกระตุ้นคอลลาเจนและช่วยให้ผิวเนียนละเอียด
ไม่เน้นการยกกระชับมากนัก
ไหมละลายแบบเงี่ยง (Barbed Thread)
มีเงี่ยงหรือปุ่มเล็ก ๆ ที่ช่วยเกี่ยวเนื้อเยื่อผิว
เหมาะสำหรับการยกกระชับใบหน้าหรือกรอบหน้าโดยเฉพาะ
สรุป
ร้อยไหมละลายเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในการยกกระชับผิวและลดความหย่อนคล้อย แตกต่างจากไหมชนิดอื่นตรงที่ไหมละลายสามารถสลายไปเองในร่างกายโดยไม่ทิ้งสารตกค้าง ทำให้เป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการปรับลุคโดยไม่ต้องผ่าตัด หากเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ คุณจะได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยในระยะยาว

|