ในปัจจุบันโรงงานรับผลิตกระเป๋ามีบริการในการผลิตกระเป๋าให้ทั้งจากหนังแท้และหนังเทียม ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้า ซึ่งหนังแต่ละแบบนั้นก็มีข้อดีและข้อด้อยต่างกัน เป็นไปตามการใช้งานของกลุ่มเป้าหมายว่าชอบหนังแบบใดมากกว่ากัน ซึ่งในบทความนี้จะพาทุกคนไปดูวิธีสังเกตผลิตภัณฑ์จากหนังแท้และหนังเทียมว่ามีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง สามารถวิเคราะห์ได้จากอะไร ไปติดตามอ่านกันได้เลย

โรงงานผลิตกระเป๋าหนังแท้ ต้อง SUVINO เท่านั้น

• หนังแท้ (Leather)

ลักษณะเด่นของกระเป๋าหนังแท้ จะมีพื้นผิวที่เหี่ยวย่นต่างกันไปขึ้นอยู่กับว่าเป็นหนังแท้จากสัตว์ประเภทไหน โดยลายที่พื้นผิวจะมีความไม่สม่ำเสมอ หรือหากสม่ำเสมอกันก็จะผ่านวิธีการอัดลายมาแล้ว เพื่อให้หนังผืนนั้นมีลายที่เทียบเท่าเสมอกันทั้งผืน

นอกจากนี้กระเป๋าหนังแท้ยังมีรูขุมขนตามธรรมชาติบนผิวหนังอย่างชัดเจน ให้สัมผัสที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ และเมื่อผ่านการใช้งานก็จะยิ่งมีความนิ่มมากขึ้น และเงาสวยกว่าช่วงที่นำมาใช้แรก ๆ โดยปกติแล้วกระเป๋าหนังแท้มีอายุการใช้งานนานกว่า 20 ปี แม้จะไม่ได้ผ่านการใช้งานอย่างจริงจังก็ตาม เพราะหนังแท้จะไม่มีทางเปื่อยยุ่ย โดยเฉพาะหนังที่ได้รับการดูแลรักษามาเป็นอย่างดี

อย่างไรก็ดี หนังแท้ก็ยังคงมีข้อด้อยซึ่งแม้จะมีความคงทนแข็งแรงแต่ก็ยังสามารถเกิดรอยได้จากขูดขีดด้วยสิ่งของมีคม เพียงแต่เมื่อถูกกรีดแล้วจะไม่ทำให้หนังเสีย และไม่ลุกลามขาดต่อ ข้อด้อยอีกประการคือหนังแท้นั้นมีสีให้เลือกอย่างจำกัด เนื่องจากการฟอกหนังนั้นอาจทำให้ผู้ใช้กระเป๋าไม่ได้สีเดิมตามที่การ อีกทั้งหนังแท้ยังมีราคาสูงมากอีกด้วย

• หนังเทียม (PU/PVC)

ความโดดเด่นของหนังเทียมคือมีลายเหมือนกันทั้งผืน และถ้าหากสังเกตดี ๆ จะพบรอยต่อของลายบนผืนหนัง เนื่องจากผลิตด้วยวัสดุสังเคราะห์ที่ต้องการให้มีความใกล้เคียงกับหนังแท้มากที่สุด นอกจากนี้เนื้อสัมผัสของหนังเทียมจะคล้ายกับว่ามีพลาสติกเคลือบอยู่บนผืนหนัง หากได้สัมผัสก็จะรับรู้ถึงความแตกต่างได้อย่างทันที

หนังเทียมมีอายุการใช้งานสั้นกว่าหนังแท้ อยู่ได้เพียง 1-2 ปีเท่านั้น แม้จะไม่ได้ใช้งานก็สามารถเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลาได้ โดยผิวของหนังเทียมจะหลุดลุ่ย เปื่อยยุ่ยไปตามอายุของวัสดุที่ใช้ผลิตหนังเทียม อีกทั้งยังไม่ทนต่อรอยขีดข่วนเหมือนหนังแท้ด้วย หากเกิดรอยขาดก็จะลามไปเรื่อย ๆ ทำให้เห็นเส้นใยด้านในของหนังเทียมที่มีลักษณะคล้ายผ้าซ้อนกันหลาย ๆ ชั้นได้อย่างชัดเจน

ทั้งนี้ หนังเทียมเป็นวัสดุที่สามารถควบคุมการผลิตได้ง่ายกว่าหนังแท้ จึงทำให้มีเฉดสีให้เลือกหลากหลายกว่า โดยเฉพาะกับสีสว่างที่ทำได้ยากในหนังแท้ เมื่อผลิตออกมาเป็นกระเป๋าหนังเทียมก็จะยังคงเป็นสีเดิมไม่ค่อยมีสีเพี้ยนซึ่งต่างจากหนังแท้ที่สีจะเปลี่ยนไปทุกครั้ง และข้อดีของหนังเทียมคือราคาถูกกว่าหนังแท้ค่อนข้างมาก ทำให้สามารถผลิตได้ในปริมาณที่ค่อนข้างเยอะ และราคาที่หลายคนเอื้อมถึงจึงทำให้กระเป๋าหนังเทียมเป็นที่นิยมมากกว่า

ขอบคุณข้อมูลจาก https://suvinocorp.com/